ทำไมผู้ที่บูชา แม่นางกวัก ถึงมีความร่ำรวย ค้าขายเงินทองไหลมาเทมา พร้อมวิธีบูชา
เมื่อได้มาลองนึกถึงของขลังของบูชาที่กิจการค้าขายนิยมนำมาบูชาเพื่อช่วยส่งเสริมการค้าขายอันดับต้น ๆ ก็ต้องคิดถึง แม่นางกวัก ที่ไม่ว่าจะไปเข้าไปร้านไหนนั้นต้องมีเกือบทุกร้านที่มีบูชาไว้คอยเรียกลูกค้า ทำให้คิดว่า แม่นางกวัก คือใคร เพราะเหตุใดจึงได้เป็นเทพแห่งโชคลาภ และผู้ที่บูชาถึงมีความร่ำรวย ค้าขายเงินทองไหลมาเทมา เรามาเปิดตำนาน แม่นางกวัก พร้อมวิธีบูชา
แม่นางกวักคือใคร??
ตามตำนานในสมัยพระพุทธกาล
แม่นางกวัก มีนามว่า สุภาวดี เกิดที่เมือง มัจฉิกาสัณฑ์ เป็นบุตรีของ นางสุมณฑา กับ สุจิตพราหมณ์ ครอบครัวประกอบอาชีพค้าขาย เมื่อครั้งที่บิดาได้เดินทางไปเร่ขายตามต่างถิ่นนางสุภาวดีได้เดินทางติดตามบิดาไปด้วย
ทำให้มีโอกาสได้พบ พระกัสสปเถระ และได้รับฟังธรรมเทศนาด้วยความตั้งใจ พระกัสสปเถระ จึงได้กำหนดจิตเป็นอำนาจจิตพระอรหันต์ และประสิทธิ์ประสาทพรให้นางสุภาวดีและครอบครัว โดยที่ท่านได้ตั้งกุศลจิตอย่างนี้ทุกครั้งที่นางสุภาวดีมาฟังธรรมจนจบอำลากลับ
ครั้นเมื่อเดินทางเดินทางตามบิดาไปอีกก็ได้มีโอกาสพบกับ พระสิวลี พระอริยสงฆ์ที่กำเนิดมาพร้อมด้วยวาสนา บารมีติดมากับวิญญาณธาตุของท่าน ดังนั้นท่านจึงเป็นผู้มีลาภสักการบูชามาสู่ท่านตลอดเมื่อถึงคราวที่จำเป็นหรือต้องการ
และทุกครั้งที่นางสุภาวดีได้เข้าฟังธรรม พระสิวลีเถระเจ้าได้กำหนดกุศลจิต ประสาทพรให้นางสุภาวดีและครอบครัวเช่นเดียวกันกับ พระกัสสปเถระ ดังนั้นจิตของนางสุภาวดีได้รับการประสาทพรจากพระอรหันต์ถึงสององค์ ยังผลให้บิดาทำมาค้าขายได้กำไรร่ำรวยไม่เคยขาดทุน
พรที่นางสุภาวดีได้รับ คือ “ขอให้เจริญรุ่งเรืองไพบูลย์ไปด้วยทรัพย์สินเงินทอง จากการค้าขายสินค้าต่าง ๆ สมปรารถนาเถิด” เพราะฉะนั้นจึงทำให้นางสุภาวดี เป็นผู้ ” เป็นสิริมงคลอย่างแท้จริง เป็นที่ไหลมาแห่งทรัพย์สมบัติของครอบครัว “
เมื่อนางสุภาวีดได้สิ้นชีวิตลง ชาวบ้านจึงได้ปั้นรูปขึ้นมาไว้บูชา ขอให้การค้าเจริญรุ่งเรือง จึงทำให้ความเชื่อนี้สืบมาจนถึงปัจจุบัน
ตามตำนานปู่เจ้าเขาเขียว
มีอสูรอยู่ตนหนึ่งพญายักษ์เจ้าเมืองสิงขร นามท้าวอุณราช ซึ่งเป็นสหายกับ ปู่เจ้าเขาเขียว เที่ยวไล่จับมนุษย์กินเป็นอาหาร จึงถูกพระรามแผลงศรปักลงที่อกเพื่อจองจำไว้ในเขาวงพระจันทร์ และได้ทรงสาปไว้ว่า ศรนี้จะคลายลงทุก ๆ สามปี เมื่อศรหลุด ท้าวอุณราช จะฟื้นขึ้นกลับมามีชีวิต
และยังทรงสาปต่ออีกว่า เมื่อใดที่บุตรสาวของ ท้าวอุณราช นามว่า นางนงประจันต์ ทอจีวรเป็นผืนสำเร็จด้วยใยบัว นำไปถวายพระศรีอารยะเมตไตรย พญายักษ์จึงจะพ้นคำสาป บุตรีของพญายักษ์ต้องดูแลบิดา พร้อมกับทอจีวรไปด้วยจึงทำให้ฐานะความเป็นอยู่ลำบากยากจน และยังถูกขัดขวางจากชาวเมืองที่เกลียดชัง
ความรู้เข้าถึง ปู่เจ้าเขาเขียว จึงได้ส่งธิดาผุ้ที่มีรูปโฉมงดงาม มนุษย์เจอก็เสน่หา ไม่เว้นแม้แต่สรพพสัตว์ทั้งหลาย มาอยู่คอยเป็นเพื่อนนางประจันต์ เมื่อนั้นเหตุการณ์ที่ร้ายกลับกลายเป็นดีขึ้นเรื่อย ๆ ชาวเมืองที่เคยเกลียดชังนางประจันต์กลับนำข้าวปลาอาหาร สิ่งของต่าง ๆ มาให้ไม่ขาดสาย
ความเกลียดชังได้มลายหายไป ด้วยเหตุการณ์นี้นางประจันต์จึงตั้งชื่อธิดาของปู่เจ้าเขาเขียวว่า “นางกวัก” จนต่อมาจึงได้มีการปั้นหุ่น แม่นางกวัก ไว้สำหรับบูชาเพื่อการค้าขาย
ลักษณะนางกวักที่ดี
- ลักษณะการยกมือกวักต้องอยู่ในระดับปาก ซึ่งมีความหมายว่า กินไม่หมด
- มวลสารที่นำมาปั้นแม่นางกวักควรที่จะเป็นมวลสารที่เป็นมงคล
- แม่นางกวักต้องมีหน้าตาที่สวยงามไม่ดุ รูปร่างสมส่วน สมดุล
- ผู้ที่ต้องการบูชาต้องรู้สึกถูกชะตาเมื่อแรกเห็น
วิธีบูชาแม่นางกวัก
- ให้จัดวางแม่นางกวักหันหน้าออกมาทางหน้าร้าน ต้องไม่อยู่ในมุมอับ ไม่อยู่ใต้คาน ควรทำหิ้งไว้แยกต่างหาก
- เมื่อครั้งแรกนำนางกวักเข้าร้านต้องบอกกล่าวขออนุญาติเจ้าที่เจ้าทางก่อนให้เรียบร้อย
สิ่งของบูชาครั้งแรก
- กล้วยน้ำว้า
- มะพร้าวอ่อน
- สับปะรด
- น้ำเปล่าสะอาด
- ธูป 5 ดอก
- ผ้าสามสี (สำหรับผูกฐานแม่นางกวัก)
สิ่งของบูชาสำหรับทุกวัน
- น้ำเขียว
- น้ำแดง
- น้ำเปล่า
- มาลัยสด
- จุดธูปบอกกล่าวให้ค้าขายดี มีลูกค้าเยอะ
(สำหรับน้ำเปล่าให้เปลียนทุกวัน โดยสามารถเอาน้ำเปล่าแก้วเก่า โดยขอจากนางกวักว่า “ขอเอาไปเป็นน้ำมนต์ล้างหน้า เพื่อความเป็นเสน่ห์เมตตา” สามารถนำน้เปล่ามาล้างหน้า หรือนำมาประพรมสินค้าในร้านเพื่อความเป็นมงคล)
คาถาบูชาแม่นางกวัก(สมบูรณ์)
คาถาบูชาแม่นางกวัก(ย่อ)
ตั้ง นะโม 3 จบ
เอหิ จิตตัง มหาลาภัง ปิยัง มะมะ มามา
สรุป
คงจะทราบถึงประวัติความเป็นมาของแม่นางกวักกันแล้ว การที่กิจการค้าขายนั้นจะเจิรญรุ่งเรืองแล้วนอกจากที่เราจะมีของขลังของบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคลแล้วนั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเจ้าของกิจการต้องมีความซื้อสัตย์ ช่วยเหลือเกื้อกูลกันระหว่างผู้ค้าขาย และลูกค้า
ร่วมถึงการใช้อัธยาศัยที่ดีเป็นมิตร เช่นนี้แล้วก็จะช่วยให้กิจการค้าขายมีความเจริญรุ่งเรืองกำไรหลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดสาย และอย่าลืมเรื่องหมั่นทำบุญทำกุศลอีกด้วย
บทความแนะนำ
