กินอาหารตามกรุ๊ปเลือด จะช่วยให้สุขภาพดีจริงหรือไม่ แล้วจะต้องกินอย่างไรให้ได้สารอาหารครบตามที่ร่างกายต้องการ
ช่วงนี้มีโรคภัยไข้เจ็บเกิดขึ้นมากมายทำให้หลาย ๆ คนกลับมาให้ความสนใจเกี่ยวกับสุขภาพของตัวเองมากขึ้น การที่สุขภาพจะดีได้นอกจากที่เราต้องออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอแล้ว ยังต้องใส่ใจเรื่องกินอีกด้วย จะต้องกินอย่างไร หรือจะต้อง กินอาหารตามกรุ๊ปเลือด เลยหรือไม่
คงจะมีคนสงสัยกันมากว่า การกินอาหารตามกรุ๊ปเลือดนั้นจะช่วยให้สุขภาพดีจริงหรือไม่ แล้วจะต้องกินอย่างไรให้ได้สารอาหารครบตามที่ร่างกายต้องการ วันนี้ ตรวจหวย มีข้อมูลที่มีประโยชน์นี้มาให้
อีกทั้งหากกินให้ดียังแถมช่วยเสริมดวงโชคลาภได้อีกด้วยคงอยากรู้แล้วล่ะสิกินอาหารตามกรุ๊ปเลือดอย่างไร ช่วยให้สุขภาพดี และแถมเสริมดวงโชคลาภพา Ruay ไปดูกันเลยค่ะ
ทำไมต้องกินอาหารตามกรุ๊ปเลือด ?
สำหรับการ กินอาหารตามกรุ๊ปเลือด นั้นเป็นทางเลือกหนึ่งในการกินอาหารที่ได้การยอมรับมานาน ซึ่งในการกินแบบนี้จะช่วยช่วยรักษาโรคภูมิแพ้ต่าง ๆ ได้อย่างแม่นยำ โดย ดร.ปีเตอร์ ดี อาดาโม ผู้ที่ได้รับรางวัลแพทย์ธรรมชาติบำบัดยอดเยี่ยมจากสหรัฐอเมริกา ปี ค.ศ.1990 ได้อธิบายไว้ในหนังสือ Eat Right for Your Type ซึ่งเขาเชื่อว่า
“เลือดแต่ละกรุ๊ปมีสารเคมีในเลือดที่แตกต่างกัน โดยมีแอนติเจนกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ซึ่งอาหารทุกชนิดล้วนมีโปรตีนที่เป็นอนุมูลอิสระ มีคุณสมบัติในการเหนี่ยวนำและจับเกาะติดเลือดที่เรียกว่า “เลกติน” ถ้าเรากินอาหารที่มีเลกตินไม่เหมาะกับเลือด ก็จะทำให้เลกตินเข้าไปรบกวนการทำงานของระบบย่อยอาหาร การเผาผลาญ การสร้างอินซูลิน และความสมดุลของฮอร์โมน”
สรุปได้ว่า การกินอาหารไม่ตรงตามกรุ๊ปเลือดจะมีผลให้ป่วยเป็นโรคมะเร็ง ภูมิแพ้ และมีความเสื่อมตามเซลล์และส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้เร็วขึ้น
วิธีสังเกตง่าย ๆ ว่ากินอาหารได้เหมาะสมหรือยัง?
ให้เราพยายามสังเกตและจดทุกอย่างที่เรากินหรือมีปฏิกิริยาเกิดขึ้น เช่น วันนี้กินอะไรเข้าไปแล้วทำให้รู้สึกเหนื่อยหรือหมดแรง จากนั้นก็ทำการจดบันทึกอาหารประจำวัน เพื่อเช็กว่าเรากินอาหารได้อย่างเหมาะสมแล้วหรือยัง
ซึ่งเราอาจพบว่าตัวเองกินอาหารไม่เหมาะสมมาตลอดก็ได้ ซึ่งไม่ว่าเราจะกินอาหารที่ดีมากแค่ไหน แต่ถ้ามันไม่เหมาะกับกรุ๊ปเลือดของเรา มันก็ไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย
กินอาหารตามกรุ๊ปเลือด
คนเลือดกรุ๊ป O

เป็นคนที่กินเนื้อได้เยอะที่สุด เนื่องจากกระเพาะมีความเป็นกรดสูง ทำให้ย่อยอาหารจำพวกเนื้อได้ดีกว่ากรุ๊ปอื่น ๆ แถมยังดูดซึมสารอาหารได้ดี สามารถนำไปใช้ในส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้เป็นอย่างดี แต่เพื่อความสมดุลของร่างกาย
จึงไม่ควรกินเนื้อมากเกินไป ควรกินผักให้มากขึ้น หรือกินในอัตราส่วนครึ่งหนึ่งของอาหารแต่ละมื้อ ที่สำคัญคนกรุ๊ปเลือดโอมักจะมีปัญหาเรื่องระดับฮอร์โมนไทรอยด์ไม่คงที่ จึงทำให้อ้วนได้ง่าย
- ออกกำลังกาย : ให้เน้นการเล่นกีฬาที่ออกแรงมาก ๆ เช่น วิ่ง ปั่นจักรยาน เต้นแอโรบิก ว่ายน้ำ ก็จะช่วยเผาผลาญแคลอรีได้เป็นอย่างดี
- อาหาร : กินอาหารตามกรุ๊ปเลือด ที่เหมาะกับคนกรุ๊ปโอจะเป็นเนื้อสัตว์แทบทุกชนิด รวมไปถึงอาหารทะเลต่าง ๆ
- ผัก : กินได้แทบทุกชนิด โดยเฉพาะผักโขม บรอกโคลี เนื่องจากมีวิตามินเคสูง แต่ควรหลีกเลี่ยงผักตระกูลกะหล่ำเนื่องจากมีผลต่อไทรอยด์ รวมไปถึงมะกอกดองและเห็ดหอม
- ผลไม้ : กินได้แทบทุกชนิดเช่นกัน โดยเฉพาะเชอร์รี่และบลูเบอร์รี่ รวมไปถึงผลไม้ตระกูลเกรปฟรุต เนื่องจากสามารถช่วยลดน้ำหนักได้ดี ส่วนผลไม้ที่ควรเลี่ยงคือ ส้ม สตรอว์เบอร์รี่ มะพร้าว แคนตาลูป
- เครื่องดื่ม : ควรเป็นชาจากสมุนไพรต่าง ๆ เช่น ชาพาร์สลีย์ ชาเปปเปอร์มินต์ ส่วนชาที่ควรงดคือ ชาที่ทำจากใบชา และงดการดื่มกาแฟ ชา เบียร์
- อาหารที่คนกรุ๊ปโอควรรับประทานบ่อยครั้ง : เนื้อแกะ, เนื้อวัว, ปลาค้อด, ปลาเทราต์, ปลาจะละเม็ด, ปลากะพงแดง, ผักโขม, บรอกโคลี่, พาร์สลีย์, สาหร่ายทะเล, เชอร์รี่, บลูเบอร์รี่, สับปะรด, ชาเขียว, น้ำมันมะกอก, กระเทียม, ขิง, ขมิ้น, หอมหัวใหญ่, หอมหัวเล็ก, ถั่ววอลนัต เป็นต้น
- อาหารที่คนกรุ๊ปโอควรงดหรือหลีกเลี่ยง : แฮม, เบคอน, ปลาดุก, นมและผลิตภัณฑ์จากนม, ข้าวสาลี, ข้าวบาร์เลย์, ข้าวโพด, ดอกกะหล่ำ, แตงกวา, มันฝรั่ง, กีวี, แคนตาลูป, มะขาม, มะพร้าว, อะโวคาโด, แบล็กเบอร์รี่, ส้ม, พริกไทย, น้ำมันถั่วเหลือง, ถั่วลิสง, ถั่วแดง, ถั่วพิสตาชิโอ, ถั่วขาว, เมล็ดทานตะวัน, เม็ดมะม่วงหิมพานต์, เบียร์ เป็นต้น
คนเลือดกรุ๊ป A

คนกรุ๊ปเลือดเอจะกินเนื้อสัตว์ได้น้อยที่สุดและต้องกินผักที่สุด เนื่องจากมีกรดในกระเพาะอาหารต่ำมากและมีความเข้มข้นของเลือดสูง ถ้ากินเนื้อสัตว์บ่อย ๆ จะทำให้เลือดหนืดและไหลเวียนช้า ทำให้เป็นโรคหัวใจได้ และยังมีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งและเบาหวาน รวมไปถึงปัญหาเรื่องระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายที่ทำงานได้ไม่เต็มที่
- การออกกำลังกาย : ให้เน้นออกกำลังกายแบบเบา ๆ ไม่ออกแรงมากนัก เช่น โยคะ และเมื่อมีความเครียดก็แก้ไขได้ด้วยการนั่งสมาธิเป็นประจำ
- อาหาร : ควรหลีกเลี่ยงการกินเนื้อสัตว์ต่าง ๆ ยกเว้นปลาแซลมอน ปลาทู ปลาค้อด ปลากะพง และปลาซาร์ดีน ที่สามารถกินได้สัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง เพื่อช่วยเสริมโปรตีน อาจจะเสริมโปรตีนจากถั่วเหลืองหรือน้ำนมถั่วเหลืองทดแทนจากเนื้อสัตว์ ส่วนไข่กินได้บางครั้ง ข้าวกล้องหรือซีเรียลกินได้วันละ 1-2 ครั้ง
- ผัก : สามารถกินได้ทั้งดิบและสุก โดยเฉพาะบรอกโคลี หอมหัวใหญ่ เพราะมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง รวมไปถึงแคร์รอต ผักโขม และกระเทียม ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกัน และฟักทองที่ช่วยเรื่องกรดในกระเพาะอาหาร
- ผลไม้ : กินผลไม้ได้แทบทุกชนิด ยกเว้น กล้วย แคนตาลูป แตงโม มะม่วง มะละกอ ส้ม เพราะย่อยได้ยาก เป็นตัวขัดขวางการดูดซึมของวิตามิน และทำให้ระคายเคืองกระเพาะ
- เครื่องดื่ม : ที่แนะนำให้ดื่ม คือ ชา กาแฟ และไวน์แดง (แต่กาแฟไม่ควรดื่มเกินวันละ 1 แก้ว) โดยควรดื่มหลังอาหารเท่านั้นเพื่อช่วยในการย่อยอาหาร เพราะเป็นเครื่องดื่มที่ช่วยเพิ่มกรด และควรหลีกเลี่ยงการดื่มเบียร์ โซดา และน้ำอัดลม เพราะจะทำให้มีกรดในกระเพาะมากเกินไป
- อาหารที่คนกรุ๊ปเอควรรับประทานบ่อยครั้ง : ปลาแซลมอน, ปลาค้อด, ปลาซาร์ดีน, บรอกโคลี, เซเลอรี่, พาร์สลีย์, ผักโขม, กระเทียม, ขิง, ขมิ้น, หอมหัวใหญ่, หอมเล็ก, เลมอน, สับปะรด, ลูกพลัม, ลูกพรุน, ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่, น้ำมันมะกอก, ถั่วเหลืองและผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง, ถั่ววอลนัต, ชาเขียว เป็นต้น
- อาหารที่คนกรุ๊ปเอควรงดหรือหลีกเลี่ยง : หมู, เป็ด, แฮม, เบคอน, กุ้งมังกร, ปู, ปลากะตัก, ปลาลิ้นหมา, ปลาดุก, หอยนางรม, หอยแครง, นมและผลิตภัณฑ์จากนม, กะหล่ำปลี, มะระ, มะเขือม่วง, มะเขือเทศ, พริกไทย, จมูกข้าว, ข้าวโพด, มันฝรั่ง, กล้วย, มะม่วง, มะละกอ, มะขาม, มะพร้าว, ส้ม, น้ำมันถั่วเหลือง, เม็ดมะม่วงหิมพานต์, ถั่วพิสตาชิโอ, ถั่วแดง เป็นต้น
คนเลือดกรุ๊ป B

ค่อนข้างมีความยืดหยุ่นทางอาหารสูง คือ กินได้ทั้งเนื้อสัตว์และผักในปริมาณที่พอดี ไม่มากหรือน้อยจนเกินไป เพราะมีความเข้มข้นของเลือดอยู่ในระดับกำลังดี แต่ปัญหาคือ จะเป็นคนอ้วนง่ายและภูมิคุ้มกันบกพร่องง่าย แต่จะไม่มีแนวโน้มเป็นโรคมะเร็งหรือโรคหัวใจเหมือนคนกรุ๊ปเอ
- การออกกำลังกาย : ควรออกกำลังกายแบบไม่หักโหมมากนัก แต่ก็ไม่เบาจนเกินไป เช่น เล่นเทนนิส ศิลปะป้องกันตัว การปีนเขา เป็นต้น
- อาหาร : อาหารที่เหมาะสมคือ เนื้อกระต่าย แกะ กวาง ไก่งวง ปลาหิมะ ปลาแซลมอน ปลาเนื้อขาวอย่างปลาจะละเม็ด ปลาตาเดียว ส่วนนม เนย และไข่ กินได้ในปริมาณที่เหมาะสม ควรเน้นกินข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต และหลีกเลี่ยงแป้งสาลี แป้งโฮลวีต และถั่วลิสง
- ผัก : ที่ควรกินคือ กะหล่ำปลี บรอกโคลี หอมหัวใหญ่ ขิง รวมไปถึงผักใบเขียวทุกชนิด เพราะมีแมกนีเซียมสูง สามารถช่วยป้องกันอาการผื่นคันและภูมิแพ้ได้
- ผลไม้ : กินได้แทบทุกชนิด โดยเฉพาะ “สับปะรด” เนื่องจากมีเส้นใยอาหารสูง แถมยังช่วยทำให้เลือดหมุนเวียนได้ดีอีกด้วย แต่ผลไม้ที่ควรจะหลีกเลี่ยงคือ ลูกพลับ ลูกแพร์ และทับทิม
- เครื่องดื่ม : ที่แนะนำให้ดื่มคือ น้ำขิง ชาเชียว โสม และเปปเปอร์มินต์ เพราะช่วยบำรุงประสาท
- อาหารที่คนกรุ๊ปบีควรรับประทานบ่อยครั้ง : เนื้อแกะ, เนื้อแพะ, ปลาจะละเม็ด, ปลาซาร์ดีน, ปลาค้อด, กะหล่ำปลี, บรอกโคลี่, ขิง, ขมิ้น, หอมหัวใหญ่, หอมเล็ก, แครนเบอร์รี่, สับปะรด, ลูกพลัม, ลูกพรุน, แตงโม, เมล็ดแฟล็กซ์, น้ำมันมะกอก, ชาเขียว, โยเกิร์ต เป็นต้น
- อาหารที่คนกรุ๊ปบีควรงดหรือหลีกเลี่ยง : แฮม, เบคอน, ไก่, เป็ด, ปลากะพง, ปู, กุ้งมังกร, หอยนางรม, ข้าวโพด, มะพร้าว, ทับทิม, อะโวคาโด, มะเขือเทศ, ซอสมะเขือเทศ, มะระ, มะเฟือง, หัวไชเท้า, พริกไทย, ข้าวสาลี, งา, ถั่วลิสง, ถั่วเหลือง, ถั่วเขียว, ถั่วพิสตาชิโอ, เมล็ดทานตะวัน, เมล็ดฟักทอง, เมล็ดมะม่วงหิมพานต์, ดอกคำฝอย เป็นต้น
คนเลือดกรุ๊ป AB

เป็นกรุ๊ปที่ผสมระหว่างกรุ๊ปเอและบี ดังนั้นจึงกินอาหารที่ใกล้เคียงกับสองกรุ๊ปนี้ได้ คนกรุ๊ปเลือดเอบีมีกรดในกระเพาะอาหารต่ำ ที่สำคัญคือควรงดอาหารหมักดองทุกชนิด เพราะไม่ดีต่อสุขภาพ และมักมีปัญหาเรื่องระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เสี่ยงเป็นโรคหัวใจ มะเร็ง และเบาหวาน
- การออกกำลังกาย : ให้เน้นการออกกำลังกายแบบเบา ๆ ด้วยการเดินช้า ๆ เล่นโยคะ เป็นต้น
- อาหาร : อาหารที่ควรรับประทาน คือ เต้าหู้ ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง ปลาซาร์ดีน ส่วนเนื้อสัตว์ที่กินได้เล็กน้อย คือ เนื้อแกะ กระต่าย กวาง และไก่งวง
- ผัก : กินผักได้แทบทุกชนิด ส่วนธัญพืชแนะนำให้กินข้าวโอ๊ตและข้าวไรย์ เพราะมีประโยชน์ต่อร่างกาย
- ผลไม้ : กินได้แทบทุกชนิดเช่นกัน เช่น แครนเบอร์รี่ เชอร์รี่ สับปะรด ส้มโอ พลัม องุ่น ฯลฯ เพราะช่วยสร้างความสมดุลของกรดในเนื้อเยื่อ
- เครื่องดื่ม : ที่แนะนำคือ ไวน์แดง แต่ควรดื่มเพียงวันละ 1 แก้ว เพื่อช่วยสร้างเสริมภูมิต้านทานโรคหัวใจและมะเร็ง รวมไปถึงชาคาโมมายล์และชาเขียว เพราะช่วยฟื้นฟูระบบภูมิคุ้มกัน หรือจะเป็นน้ำอุ่นผสมน้ำมะนาวครึ่งซีกไว้สำหรับดื่มตอนเช้าเพื่อช่วยในการย่อยและล้างระบบลำไส้ก็ได้
- อาหารที่คนกรุ๊ปเอบีควรรับประทานบ่อยครั้ง : ปลาซาร์ดีน, กะหล่ำปลี, ดอกกะหล่ำ, บรอกโคลี, พาร์สลีย์, กระเทียม, ขิง, ขมิ้น, หอมหัวใหญ่, หอมเล็ก, แครนเบอร์รี่, เชอร์รี่, เลมอน, สับปะรด, องุ่น, ถั่วเหลือง, เมล็ดแฟล็กซ์, วอลนัต, น้ำมันมะกอก, ชาเขียว, โยเกิร์ต เป็นต้น
- อาหารที่คนกรุ๊ปเอบีควรงดหรือหลีกเลี่ยง : แฮม, เบคอน, ไก่, เป็ด, ปู, ปลาลิ้นหมา, ปลาเทราต์, กุ้ง, กุ้งแห้ง, กุ้งมังกร, หอยนางรม, มะระ, หัวไชเท้า, พริกไทย, งา, เมล็ดฟักทอง, เมล็ดทานตะวัน, ข้าวโพด, มันสำปะหลัง, ถั่วแดง, ถั่วเขียว, กล้วย, มะพร้าว, มะม่วง, ส้ม, อะโวคาโด, ดอกคำฝอย เป็นต้น
กินอาหารตามกรุ๊ปเลือดอย่างไรให้เสริมโชคลาภ
อย่างหนึ่งที่จะแนะนำก็คือการเลือกกินอาหารมังสวิรัตินั่นเอง การละอาหารที่ทำจากเนื้อสัตว์ทั้งหลายที่จะช่วยให้เราได้บุญ เสริมดวง แต่ยังได้คุณภาพในการกินสมบูรณ์ครบถ้วน คนกรุ๊ปเลือดทั้ง 4 ต้องกินมังสวิรัติอย่างไรบ้างมาดูกันเลย

เลือดกรุ๊ป O
เนื่องจากกระเพาะมีความเป็นกรดสูง สามารถย่อยและดูดซึมนำไปใช้ในส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้เป็นอย่างดี แต่สิ่งที่ควรระวังคือปัญหาที่เกี่ยวกับระดับฮอร์โมนไทรอยด์ไม่คงที่ อาจจะส่งผลให้บางคนอ้วนง่าย ดังนั้นหากจะให้ดีแนะนำให้ทานผักมาก ๆ และลดคาร์โบไฮเดรตลง ควรทานอาหารที่มีวิตามินเคมาก ๆ เพื่อให้เลือดแข็งตัวได้ดีและรวดเร็ว
เมนูอาหารมังสวิรัติที่แนะนำ ได้แก่ ผัดบร็อคโคลี่ ผัดผักรวม ข้าวอบสับปะรด ต้มจืดผักโขม ผักโขมผัดน้ำมันหอย ผักโขมอบชีส (แนะนำเป็นชีสไขมันต่ำ) ยำสาหร่าย น้ำผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ น้ำลูกพรุน เป็นต้น
เลือดกรุ๊ป A
เป็นกรุ๊ปเลือดที่เหมาะกับการทานอาหารมังสวิรัติมากที่สุด เนื่องจากมีกรดในกระเพาะต่ำ มีความเข้มข้นของเลือดสูง แถมยังมีปัญหาระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้ไม่เต็มที่
เมนูอาหารมังสวิรัติที่แนะนำ ได้แก่ ผัดฟักทองใส่ไข่ ผัดผักรวมเต้าหู้ เต้าหู้ผัดซอส เต้าหู้ผัดผงกะหรี่ ข้าวยำธัญพืช ซุปแครอท ไอศกรีมที่ทำจากนมถั่วเหลือง สมูทตี้เบอร์รี่ กาแฟดำ เป็นต้น

เลือดกรุ๊ป B
ค่อนข้างโชคดีที่น้ำย่อยในกระเพาะอาหารมีความสมดุล ทำให้สามารถเลือกรับประทานอาหารได้หลากหลาย แต่สิ่งที่ควรระวังคือเรื่องภูมิคุ้มกันบกร่อง ทำให้มีปัญหาเรื่องภูมิแพ้ง่าย และเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสต่าง ๆ ได้ง่ายกว่ากรุ๊ปอื่น
เมนูอาหารมังสวิรัติที่แนะนำ ได้แก่ กะปล่ำปลีผัดน้ำปลา สลัดซีซ่าร์ โยเกิร์ต ผัดเปรี้ยวหวาน แกงคั่วสับปะรด ข้าวผัดสับปะรดแบบไม่ใส่เนื้อสัตว์ ยำแอปเปิ้ลควินัว ถั่วแดงกวน กราโนล่า สมูทตี้ชาเขียว น้ำแครนเบอร์รี่ น้ำขิง เป็นต้น

เลือดกรุ๊ป AB
คนกรุ๊ปเอบีไม่ควรทานเนื้อสัตว์และของหมักดองมากจนเกินไป เนื่องจากคนมีกรดในกระเพาะอาหารต่ำ อีกทั้งยังมีปัญหาเรื่องระบบภูมิคุ้มกันที่ไม่ค่อยแข็งแรงอีกด้วย เพราะฉะนั้นต้องเลือกทานอาหารให้ดี และหมั่นออกกำลังกายด้วย
เมนูอาหารมังสวิรัติที่แนะนำ ได้แก่ เต้าหู้ผัดซอส เต้าหู้ผัดพริก สลัดอะโวคาโด หน่อไม้ฝรั่งผัดน้ำมันหอย พาสต้าโฮลวีตซอสครีม ต้มยำเห็ดรวม ต้มจืดหัวไชเท้า ตุ๋นมะระ เป็นต้น
สรุป
ต้องขอบอกกันก่อนว่าการอาหารที่แนะนำให้รับประทานนั้น หมายถึง อาหารที่สามารถกินได้บ่อย ๆ ส่วนอาหารที่ควรงดหรือหลีกเลี่ยง หมายถึง อาหารที่ไม่ควรกินเลย
แต่ถ้าหากจำเป็นต้องกิน ก็สามารถกินได้แต่ต้องในปริมาณที่น้อย และพยายามกินอาหารที่เหมาะสมเข้าไปทดแทนในทันทีด้วย สำหรับอาหารอื่น ๆ ที่ไม่ได้กล่าวไว้ก็สามารถกินได้นาน ๆ ครั้ง