คงไม่มีใครที่จะไม่รู้จัก ‘หลวงพ่อคูณ’ พระเกจิอาจารย์ชื่อดังของประเทศไทย
เชื่อว่าไม่มีใครที่จะไม่รู้จัก ‘หลวงพ่อคูณ’ พระเกจิอาจารย์ชื่อดังของประเทศไทยที่ไม่ได้ดังแค่ในประเทศเท่านั้น แต่ยังดังไปถึงต่างประเทศอีกด้วย ด้วยเอกลักษณ์ประจำตัวมากมายอย่างท่าการวางตัวหรือการใช้ภาษาแบบสมัยพ่อขุนรามคำแหง และสิ่งสำคัญที่ทำให้ผู้คนนึกถึงหลวงพ่อคูณก็คือ ‘เครื่องรางของขลัง’ และหลักคำสอนการในการใช้ชีวิตต่างๆ
ประวัติหลวงพ่อคูณ

พระเทพวิทยาคมหรือชื่อเดิมคือ คูณ ฉัตร์พลกรัง หรือที่เรียกกันติดปากว่า ‘หลวงพ่อคูณ’ (คูณ ปริสุทโธ) มีฉายาว่า ‘เทพเจ้าแห่งด่านขุนทด’ เกิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 4 ตุลาคม 2466 แรม 10 ค่ำ เดือน 10 ปีกุน ณ บ้านไร่ หมู่ 6 ตำบลกุดพิมาน อำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา บิดาชื่อ นายบุญ ฉัตรพลกรัง มารดาชื่อ นางทองขาว ฉัตรพลกรัง มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน 3 คน ประกอบด้วย ได้แก่
- หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ
- นางคำมั่น วงษ์กาญจนรัตน์
- นางทองหล่อ เพ็ญจันทร์
เมื่ออายุได้ประมาณ 11 ปี นางทองขาว แม่ของหลวงพ่อคูณก็เสียชีวิตลง พ่อของหลวงพ่อคูณจึงได้นำหลวงพ่อคูณไปฝากไว้เป็นศิษย์ที่วัดบ้านไร่ พออายุได้ 21 ปีก็ได้ไปอยู่ที่วัดถนนหักใหญ่ ตำบลกุดพิมาน อำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา
ในตอนนั้นหลวงพ่อคูณได้รับฉายาว่า ‘ปริสุทโธ’ โดยมีพระครูวิจารยติกิจ เจ้าคณะอำเภอด่านขุนทด เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอธิการสี วัดบ้านจั่น เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอธิการสุข วัดโคกรักษ์ เป็นพระอนุสาวนาจารย์
หลังจากที่อุปสมบทเป็นพระภิกษุแล้วก็ฝากตัวเป็นศิษย์ของหลวงพ่อแดง ชินบุตโต วัดบ้านหนองโพธิ์ ตำบลสำนักตะคร้อ อำเภอเทพารักษ์ จังหวัดนครราชสีมา และหลวงพ่อคง พุทธสโร วัดถนนหักใหญ่ ตำบลกุดพิมาน อำเภอด่านขุดทด จังหวัดนครราชสีมา
หลังจากที่ได้เรียนธรรมะ วิชาอาคม จนชำนาญการปฏิบัติธรรมแล้ว ก็ได้ออกไปธุดงค์จาริกที่นครราชสีมา และออกไปไกลถึงประเทศลาวและประเทศกัมพูชา ลึกเข้าไปในป่า เพื่อการหลุดพ้นจากกิเลสตัณหาทั้งปวง
นอกจากนี้หลวงพ่อคูณยังได้ทำคุณความดีอีกมากมาย ในตอนที่จำพรรษาอยู่วัดบ้านไร่นั้น ท่านได้นำชาวบ้านทำการสร้างโรงเรียนบ้านไร่โดยไม่ได้ใช้เงินจากทางราชการเลยแม้แต่น้อย และยังบริจาคเงินก่อสร้างวัด หน่วยงานราชการต่าง ๆ มากมาย
ทั้งโรงพยาบาล สถานีอนามัย โรงเรียน วิทยาลัย สถานีตำรวจ บ้านพักตำรวจ ที่ว่าการอำเภอ ถนน รวมทั้งบริจาคเงิน เพื่อจัดซื้ออุปกรณ์ช่วยชีวิต รถพยาบาล รถดับเพลิง เครื่องมือแพทย์ เวชภัณฑ์ต่างๆ เป็นต้น
นอกจากนี้หลวงพ่อได้ถวายเงินแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช โดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย วันที่ 11 มกราคม 2538 ณ วัดบ้านไร่ จำนวน 72,000,000 บาท และถวายอีกครั้งในวันที่ 18 เมษายน 2551 ณ พระราชตำหนักจิตรลดารโหฐานพระราชวัง จำนวน 100,000,000 บาท ประมาณการเงินที่บริจาคเพื่อเป็นปัจจัยสร้างวัด หน่วยงานราชการและเอกชน เพื่อเป็นสาธารณประโยชน์ สาธารณสงเคราะห์ มีมากถึง 4,000,000,000 บาท
สมณศักดิ์หลวงพ่อคูณ
จากคุณงามความดีของท่านมากมาย จึงได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช พระราชทานสัญญาบัตรพัตยศ ณ พระที่นั่งอมรินทร์วินิจฉัยในพระบรมมหาราชวัง ดังต่อไปนี้
- 12 สิงหาคม 2535 พระราชทานสัญญาบัตรพัตยศ ที่พระญาณวิทยาคมเถระ
- 10 มิถุนายน 2539 พระราชทานสัญญาบัตรพัตยศ เลื่อนสมณศักดิ์ที่พระราชวิทยาคม
- 12 สิงหาคม 2557 รับพระราชทานสัญญาบัตรพัตยศ เลื่อนสมณศักดิ์ ที่พระเทพวิทยาคม และได้รับแต่งตั้ง เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 11 โดยสมเด็จพระพุฒาจารย์ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆรา ตั้งแต่วันที่ 21 พฤศจิกายน 2546
ตั้งแต่ปี 2543 หลวงพ่อคูณเริ่มมีอาการอาพาธด้วยโรคหัวใจ ซึ่งแพทย์ให้ทำการผ่าตัดบายพาสหัวใจจนอาการดีขึ้น และเริ่มอาการทรุดลงในกลางปี 2547 ด้วยอาการอาพาธที่เกิดจากเลือดคั่งในสมอง จนทำการผ่าตัดเพื่อเอาลิ่มเลือดออก ในเดือนเมษายน ปี 2552 ท่านอาพาธด้วยอาการติดเชื้อในกระแสเลือด ส่งผลให้เกิดอาการซึมเศร้า
หลังจากนั้นอาการของท่านก็เริ่มอ่อนแอลงไปเรื่อยๆ และต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลอยู่บ่อยครั้ง จนกระทั่งวันที่ 15 พฤษภาคม 2558 เวลา 05.40 น. ท่านมีอาการหัวใจหยุดเต้น แพทย์ต้องตัวส่งที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาอีกครั้ง
โดยทางแพทย์ได้พยายามทำการรักษาเพื่อยื้อชีวิตของหลวงพ่อคูณกันอย่างเต็มที่ แต่ในที่สุด ท่านก็ได้ละสังขารไปในเวลา 11.45 น. ของวันที่ 16 พฤษภาคม 2558 ด้วยอายุ 92 ปี
รวมเหรียญหลวงพ่อคูณทุกรุ่นยอดนิยม
อันดับที่ 1 : เหรียญหลวงพ่อคูณ รุ่นสร้างบารมี ปี 2519

- เหรียญทองแดง (สร้าง 2,519 เหรียญ) ราคาเช่าอยู่ที่ประมาณ 300,000-500,000 บาท
- เหรียญนวะ (สร้าง 999 เหรียญ) ราคาเช่าอยู่ที่ประมาณ 600,000-800,000 บาท
- เหรียญเงิน (สร้าง 199 เหรียญ) ราคาเช่าอยู่ที่ประมาณ 1,000,000-2,000,000 บาท
- เหรียญทองคำ (สร้าง 99 เหรียญ) ราคาเช่าอยู่ที่ประมาณ 5,000,000-10,000,000 บาท
สาเหตุที่รุ่นสร้างบารมี ปี 2519 มีราคาสูงกว่า เหรียญหลวงพ่อคูณรุ่นแรก ปี 2512 ทั้งๆ ที่สร้างออกมาภายหลังนั้น มีเหตุผลมาจาก เหรียญหลวงพ่อคูณ รุ่นสร้างบารมี ปี 2519 ถูกจัดทำขึ้นที่วัดบ้านไร่เป็นครั้งแรก ประกอบกับมีรูปแบบสวยงาม แกะพิมพ์ได้เหมือนองค์จริงของหลวงพ่อคูณ และประณีตมากกว่ารุ่นแรก ถือว่าเป็นรุ่นที่นิยมสุดรุ่นหนึ่ง เนื่องจากเป็นรุ่นเก่าแก่ และจำนวนการสร้างไม่มากนัก
อันดับที่ 2 : เหรียญหลวงพ่อคูณ รุ่นนั่งพานชนะมาร ปี 2537

- เหรียญทองแดง (สร้าง 20,000 เหรียญ) ทองเหลือง (10,000 เหรียญ) ราคาเช่าอยู่ที่ประมาณ 10,000 บาท
- เหรียญนวะ (สร้าง 5,000 เหรียญ) ราคาเช่าอยู่ที่ประมาณ 25,000-30,000 บาท
- เหรียญเงิน (สร้าง 2,500 เหรียญ) ราคาเช่าอยู่ที่ประมาณ 80,000-90,000 บาท
- เหรียญทองคำ (สร้าง 199 เหรียญ) ราคาเช่าอยู่ที่ประมาณ 800,000-1,000,000 บาท
รุ่นนั่งพานชนะมาร ปี 2537 เป็นเหรียญนั่งพานที่สวยที่สุดของหลวงพ่อคูณ และเหรียญทุกเหรียญมีการตอกโค้ดและรันนัมเบอร์ทุกเหรียญ เหล่าพ่อค้าแม่ขาย มักนิยมเช่าบูชา
การออกแบบเหรียญรุ่นนี้เป็นการผสมกันระหว่างเหรียญนั่งพานของหลวงปู่ทิม วัด ละหารไร่ จ.ระยอง ซึ่งเป็นเจ้าตำรับของเหรียญนั่งพาน บวกกับเหรียญสร้างบารมีปี 19 ที่แสนโด่งดังของหลวงพ่อคูณ กลายมาเป็นเหรียญนั่งพานชนะมาร
อันดับที่ 3 : เหรียญหลวงพ่อคูณรุ่นแรก ปี 2512

- ราคาเช่าอยู่ที่ประมาณ 400,000-500,000 บาท (หากสภาพดี สมบูรณ์ ราคามีโอากาสเหยียบล้าน)
เหรียญหลวงพ่อคูณรุ่นแรก ปี พ.ศ. 2512 ออกที่วัดแจ้งนอก เหรียญรุ่นนี้ออกให้ประชาชนทำบุญบูชา เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2512 เป็นที่ระลึกงานฉลองพระประธาน วัดแจ้งนอก จ.นครราชสีมา จำนวนสร้าง 10,000 เหรียญ แม้เหรียญหลวงพ่อคูณรุ่นแรก วัดแจ้งนอก จะออกไม่ตรงวัด แต่หลวงพ่อคูณ เมตตาปลุกเสกให้อย่างสมบูรณ์
โดยพุทธคุณโดดเด่นด้านเมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย ซึ่งถือว่ารุ่น 1 ทำให้ท่านเริ่มเป็นที่รู้จักของประชาชน จากเหตุการณ์ที่จ่าอากาศสังกัดกองบิน 3 จังหวัดนครราชสีมา ถูกพวกไม่หวังดียิงที่ อ.ท่าลาน ถามแล้วได้ความว่าจ่าอากาศท่านนี้มีตะกรุดทองคำและเหรียญหลวงพ่อคูณ
ในช่วง พ.ศ. 2512 นั้น การทำสงครามกับคอมมิวนิสต์มิใช่มีแต่เมืองไทย หากแต่มีทั่วอินโดจีน โดยมีสหรัฐอเมริกามาตั้งฐานทัพที่อุดร ตาคลี ทหารอเมริกันที่ประจำหน่วยรบ ส่วนมากมีเมียเช่าที่เป็นคนไทย ทำให้ทหารต่างชาติรู้จักเหรียญหลวงพ่อคูณและนำติดตัวเวลาออกรบ
อันดับที่ 4 : เหรียญหลวงพ่อคูณ รุ่นเจริญพรบน ปี 2536

- เหรียญเนื้อเงิน ไม่ตัดปีก (โค้ด 9 เก้าตัว) สร้าง 100 เหรียญ
- เหรียญเนื้อนวโลหะ ไม่ตัดปีก (โค้ด 9 เก้าตัว) สร้าง 100 เหรียญ
- เหรียญเนื้อทองแดง ไม่ตัดปีก (โค้ด 9 เก้าตัว) สร้าง 100 เหรียญ
- เหรียญเนื้อเงิน ตอกหมายเลข สร้างจำนวน 999 เหรียญ (เนื้อเงินที่ตอกเลข 9 สังฆาฏิ มีจำนวนไม่เกิน 50 เหรียญ)
- เหรียญเนื้อนวโลหะ ตอกหมายเลข สร้างจำนวน 999 เหรียญ
- เหรียญเนื้อทองแดง สร้างจำนวน 10,000 เหรียญ
ดังนั้น เนื้อเงินที่ตอกเลข 9 สังฆาฏิ มีจำนวนไม่เกิน 50 เหรียญ จะมีราคาเช่าอยู่ที่ 300,000 บาทขึ้นไป ส่วนไม่ตอกเลข 9 สังฆาฏิ มีราคาเช่าอยู่ที่ 250,000-300,000 บาทขึ้นไป
เหรียญเจริญพรบน ด้านหลังมีคำอวยพรว่า “เมตตามหานิยม” ทำให้เหรียญเจริญพรบน ได้รับความนิยมอย่างมาก อีกทั้งยัง เป็นเหรียญที่มีความสวยงามประทับใจมากที่สุดของหลวงพ่อคูณ ทั้งรูปทรงและการแกะพิมพ์ใบหน้าของหลวงพ่อคูณที่ดูสวยงามลงตัวอย่างที่สุด
อันดับที่ 5 : เหรียญหลวงพ่อคูณ ปี 2517

- เหรียญทองแดง ราคาเช่าอยู่ที่ประมาณ 20,000-30,000 บาท
- เหรียญนวะ ราคาเช่าอยู่ที่ประมาณ 150,000-200,000 บาท
เหรียญหลวงพ่อคูณปี 2517 เป็นเหรียญหลักยอดนิยม แต่ด้วยจำนวนสร้างไว้มาก จึงทำให้ราคาค่านิยมไม่แรงเหมือนเหรียญรุ่นสร้างบารมีปี 2519 ที่ท่านสร้างเนื้อทองแดงไว้เพียง 2,519 เหรียญ ตามปี พ.ศ.
ด้านบนเขียนว่า “หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ” ส่วนด้านล่างเขียนว่า “วัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด นครราชสีมา”
ด้านหลังบรรจุดวงชะตาของ หลวงพ่อคูณ ล้อมด้วยพระคาถาภาษาขอมว่า “สะนิทัสสะนะ อัปปะฏิคา” “มะอะอุ” เป็นพระคาถามหาอุด หยุดกระสุนปืนไม่ให้ออก หากออกมาจะทำให้ปากกระบอกปืนแตก จึงเชื่อว่า สามารถป้องกันภัยจากปืนได้
อันดับที่ 6 : เหรียญหลวงพ่อคูณ รุ่นคุณพระเทพประทานพร ปี 2536

- เหรียญทองคำ ราคาเช่าอยู่ที่ประมาณ 200,000-300,000 บาท
รุ่นคุณพระเทพประทานพร ดร.พระมหาปรีชา หลานแท้ๆ ของหลวงพ่อคูณ เคยหอบหิ้วกันไปลำบากลำบนที่ประเทศอินเดียกับหลวงพ่อเมื่อหลายสิบปีก่อน ท่านได้ดูแลโรงเรียนพระปริยัติธรรมซึ่งอยู่ในความอุปถัมภ์ของหลวงพ่อคูณอยู่ ซึ่งท่านก็มาเบิกค่าใช้จ่ายต่อหลวงพ่ออยู่เรื่อยๆ แล้ววันหนึ่งหลวงพ่อก็ได้ดำริว่า ให้ท่านสร้างวัตถุมงคลของหลวงพ่อขึ้นมา เพื่อเป็นกองทุนไว้ใช้จ่ายในเรื่องของโรงเรียนพระปริยัติธรรมที่ท่านดูแลนี้ขึ้นมา
ดร.พระมหาปรีชา จึงได้ปรึกษากับลูกศิษย์คนสนิทก็คือ คุณโอฬาร อากาศวิภาต ให้ช่วยจัดการดำเนินการให้และได้สร้างเหรียญออกมารุ่นหนึ่ง คือ รุ่นคุณพระเทพพิทักษ์ และออกให้บูชาได้รายได้มาจำนวนเล็กน้อยไม่บรรลุวัตถุประสงค์ที่จะทำให้ โรงเรียนพระปริยัติธรรมอยู่ได้ด้วยตนเอง
จึงได้ทำการจัดสร้างขึ้นมาใหม่อีกรุ่นหนึ่ง ซึ่งก็คือรุ่นคุณพระเทพประทานพร ซึ่งคำว่าคุณพระเทพ หมายถึง สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสที่ท่านเสด็จมายังวัดบ้านไร่ในปีนั้น และในที่สุดรุ่นคุณพระเทพประทานพร ก็สามารถตั้งกองทุนบุญนิธิฯ ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาต่อไปในด้านโรงเรียนพระปริยัติธรรมได้ต่อไปสมดังเจตนา ของหลวงพ่อคูณที่ดำริไว้ทุกประการ
อันดับที่ 7 : เหรียญหลวงพ่อคูณ รุ่นธนาคารศรีนคร ปี 2521

- เหรียญเงินราคาเช่าอยู่ที่ประมาณ 100,000 บาท
เหรียญหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ พ.ศ.2521 เป็นเหรียญของหลวงพ่อคูณอีกหนึ่งรุ่นที่ได้รับความนิยมอย่างสูง จัดสร้างโดยธนาคารศรีนคร เพื่อเป็นที่ระลึกในโอกาสเปิดสำนักงานของธนาคารที่จังหวัดนครราชสีมา ในนามของวัดสระแก้ว อำเภอเมือง นครราชสีมา จำนวนที่จัดสร้างมีเหรียญเงิน 200 เหรียญ เนื้อนวโลหะ 500 เหรียญ และเหรียญทองแดง 5,000 เหรียญ
อันดับที่ 8 : เหรียญหลวงพ่อคูณ รุ่นเพชรน้ำเอก ปี 2536

- เหรียญทองแดง ราคาเช่าอยู่ที่หลักร้อยบาท
- เหรียญนวะ ราคาเช่าอยู่ที่หลักพันต้นๆ
- เหรียญเงิน ราคาเช่าอยู่ที่ประมาณ 6,000-7,000 บาท
- เหรียญทองคำ ราคาเช่าอยู่ที่ประมาณ 100,000 บาท
เหรียญหลวงพ่อคูณ รุ่นเพชรน้ำเอก ปี 2536 ปลุกเสกให้ศิษย์เอกเป็นพิเศษ คือ คุณไสว พราหมณี (อดีตอธิบดีกรมประชาสงเคราะห์) เพื่อหารายได้สร้างอาคารที่พักเด็กพิการ อาคารอเนกประสงค์และจัดซื้อรถพยาบาลให้แก่สถานสงเคราะห์เด็กพิการฯ หลังจากเสร็จพิธีปลุกเสกเหรียญรุ่น เพชรน้ำเอก หลวงพ่อคูณ ได้ใช้เวลาปลุกเสกตั้งแต่เวลา 01.00 น. จนถึงเวลา รุ่งเช้า 07.00 น. ของวันที่ 28 ก.ย.2536 โดยใช้เวลาปลุกเสกต่อเนื่อง ยาวนานถึง 6 ชั่วโมง
หลังจากนั้นหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ ท่านได้ฝากข้อความผ่าน นายเทียน อายะนันทน์ ผู้อำนวยการกองสัมมาอาชีวสงเคราะห์ ในเวลานั้น และนายสมพร อัมพะวะศิริ ผู้ปกครองสถานสงเคราะห์เด็กฯ ใจความว่า
‘มึงกลับไปบอกไอ้ไหว (นายไสว พราหมณี) ด้วยว่า มึงเกิดอีก 7 ชั่วโคตร มึงก็ยังไม่ได้เห็นเหรียญแบบรุ่นเพชรน้ำเอกนี้’
ซึ่งท่านหมายความว่า ท่านปลุกเสกให้อย่างดี นานต่อเนื่องถึง 6 ชั่วโมงเต็ม โดยที่หลวงพ่อคูณ ยังไม่เคยปลุกเสกเหรียญรุ่นใด ยาวนานต่อเนื่องเช่นนี้
อันดับที่ 9 : เหรียญหลวงพ่อคูณ รุ่นคุณพระเทพวิทยาคม ปี 2556

- เหรียญทองแดง (สร้าง 19,999 เหรียญ) ราคาเช่าอยู่ที่ประมาณหลักพันบาท
- เหรียญนวโลหะ (สร้าง 2,499 เหรียญ) ราคาเช่าอยู่ที่ประมาณหลักหมื่นบาท
- เหรียญเงิน (สร้าง 999 เหรียญ) ราคาเช่าอยู่ที่ประมาณหลักหมื่นบาท
- เหรียญทองคำลงยา (ลงสีที่พระ) (สร้าง 99 เหรียญ) ราคาเช่าอยู่ที่ประมาณ 200,000 บาท
รุ่นคุณพระเทพวิทยาคม ปี 2556 เป็นรุ่นที่สวยที่สุดตั้งแต่หลวงพ่อคูณสร้างขึ้นมา ซึ่งมีเกจิดังทั่วประเทศไทยมาร่วมปลุกเสกในรุ่นนี้ด้วย ถือว่าเป็นพิธีการปลุกเสกดีที่สุด
สรุป
หลวงพ่อคูณถือเป็นอีกหนึ่งพระเกจิชื่อดังทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ผู้คนต่างให้การยกย่องเชิดหน้าชูตา ruay ด้วยความที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งท่าทางการนั่งและคำพูดคำจาแบบสมัยพ่อขุนรามคำแหง พร้อมด้วยคำสอนในชีวิตประจำวันที่สามารถเอามาใช้ได้จริง และสิ่งที่โดดเด่นที่สุดของหลวงพ่อคูณก็คือเครื่องรางของขลัง โดยเฉพาะเหรียญหลวงพ่อคูณรุ่น 2536 ที่เป็นที่นิยมมากที่สุดและมีราคาแพงมาก ตรวจหวย.com